วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2552

DNS server

ประวัติความเป็นมาของระบบ DNS
ราวช่วงศตวรรษที่ 90 ในขณะที่การใช้งานอีเมลล์เริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย จำนวนเครือข่ายที่เชื่อมต่อมายังเครือข่าย ARPA NET ได้เพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้บริการเครือข่ายแบบรวมศูนย์ของ SRI ( The NIC ) เริ่มประสบปัญหาในการจัดการระบบฐานข้อมูลซึ่งใช้ในการอ้างอิงถึงโฮสท์ที่เชื่อมต่อมาจากเครือข่ายอิสระต่างๆ ที่มีโครงสร้างการทำงานที่แตกต่างกัน โดยในขณะนั้น การเพิ่มรายชื่อโฮสท์แต่ละเครื่องเข้ามาในเครือข่าย ARPA NET จำเป็นต้องส่งข้อมูลโดยการ FTP เข้ามาปรับปรุงข้อมูลในไฟล์ Host Table ที่ SRI เป็นผู้ดูแล ซึ่งจะมีการปรับปรุงข้อมูลเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งเท่านั้น ทำให้การจัดการข้อมูลมีความล่าช้าและไม่ยืดหยุ่น นอกจากนี้เครือข่ายต่างๆ ที่เข้ามาเชื่อมต่อต่างก็ต้องการอิสระในการจัดการบริหารระบบของตนเองจึงเกิดแนวความคิดที่กระจายความรับผิดชอบในการจัดระบบนี้ออกไป โดยแบ่งการจัดพื่นที่ของโลกเสมือนนี้ออกเป็นส่วนๆ โดยกำหนดให้โฮสท์แต่ละเครื่องอยู่ภายใต้ขอบเขตพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งที่ได้แบ่งเอาไว้ โดยแต่ละพื้นที่สามารถแบ่งออกเป็นพ้นที่ที่เล็กลงได้อย่างไม่จำกัด ซึ่งพื้นที่แต่ละส่วน ก็ถูกอ้างไปยังพื้นที่ที่ใหญ่กว่าเป็นลำดับชั้นขึ้นไป เพื่อให้สามารถระบุตำแหน่งอ้างอิงของโฮสท์แต่ละเครื่องที่อยู่ภายใต้ขอบเขตของแต่ละพื้นที่ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดยพื้นที่เสมือนแต่ละส่วนถูกเรียกว่า “ โดเมน” (Domain) และเรียกการอ้างระบบอ้างอิงเป็นลำดับชั้นด้วยชื่อของแต่ละพื้นที่หรือโดเมนนี้ว่า “ ระบบชื่อโดเมน ” ( Domain Name System)ส่วนพื้นที่ทั้งหมดของโลกเสมือนที่ประกอบด้วยพื้นที่ย่อยๆจำนวนมากนี้ จะเรียกว่า “Domain Name Space”

DNS ย่อมาจาก Domain Name System Domain ในความหมายทั่วไป หมายถึง พื้นที่ที่ควบคุม หรือ โลกของความรู้ในอินเตอร์เน็ต domain ประกอบด้วย กลุ่มของตำแหน่งเครือข่าย ชื่อ domain จัดโครงสร้างเป็นระดับ โดยระดับบนสุดเป็นการระบุด้านภูมิศาสตร์หรือจุดมุ่งหมายขององค์กร (เช่น .th หมายถึงประเทศไทย .com หมายถึงหน่วยธุรกิจ) ระดับที่สองเป็นชื่อที่ไม่ซ้ำ (Unique) ภายใน Domain ระดับบนสุด และระดับต่ำที่ต้องนำมาใช้ ดังนั้น Domain Name System ก็เป็นระบบจัดการแปลงชื่อ (Domain Name) ให้เป็นหมายเลข IP address (name-to-IP address mapping) โดยมีโครงสร้างฐานข้อมูลแบบลำดับชั้นเพื่อใช้เก็บข้อมูลที่เรียกค้นได้อย่างรวดเร็ว หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ การจดจำตัวเลข IP สำหรับแต่ละที่อยู่เว็บไซต์ มีความยากลำบาก ในทางปฏิบัติ จึงได้มีระบบการแปลงเลข IP ให้เป็นชื่อที่ประกอบขึ้นจากตัวอักษร คำ หรือ วลี เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ซึ่งเรียกว่า โดเมนเนม (Domain Name) เมื่อเราป้อนที่อยู่เว็บไซต์ หรือโดเมนเนม ให้กับโปรแกรม Browser คอมพิวเตอร์จะทำการ แปลงโดเมนเนมให้เป็นชุดตัวเลข IP เพื่อให้คอมพิวเตอร์ด้วยกันเอง เข้าใจระบบที่ใช้แปลง ค่าระหว่างโดเมนเนม และ เลข IP นี้เรียกว่า Domain Name System (DNS) ซึ่งโดยปกติจะมี 2 ส่วน คือ

Primary Name Server เป็นเครื่องหลักที่เก็บข้อมูล ชื่อ และ IP Address ของเครื่องในโดเมนเนม

Secondary Name Server เป็นเครื่องสำรองที่เก็บสำเนาข้อมูลทั้งหมดของเครื่อง Primary ซึ่งอาจมีการสำรองมากกว่า1 เครื่องก็ได้ โดยการจะจด DNS Name Server ได้ จะต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เปิดอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น ที่ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต หรือ ISP (Internet Service Procider) มหาวิทยาลัยใหญ่ บริษัทใหญ่และผู้ให้บริการรับฝากเว็บซึ่งเรียกว่า Web Presence หรือ Web Hosting เป็นต้น การทำงานของระบบ DNS คือ ทำหน้าที่แปลงข้อมูลชื่อและหมายเลข IP address หรือทำกลับกันก็ได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเพิ่มเติมอื่นๆ อีก เช่น แจ้งชื่อของอีเมล์เซิร์ฟเวอร์ใน domain ที่รับผิดชอบด้วย ในระบบ DNS นั้น จะมีการกำหนด name space ที่มีกฎเกณฑ์อย่างชัดเจน มีวิธีการเก็บข้อมูลเป็นแบบฐานข้อมูลแบบกระจาย ทำงานในลักษณะของไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์ (Client/Server) โดยมี DNS server ให้บริการเรียกค้นชื่อและแปลงข้อมูลให้ตามที่เครื่องลูกข่าย (DNS Client) เรียกเข้ามา เช่น เครื่องลูกข่ายที่ต้องการรับส่งอีเมล์ หรือโอนถ่ายไฟล์ข้อมูลให้กับเครื่องอื่นซึ่งอาจจะรู้เพียงชื่อของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ที่ให้บริการแค่นั้น แต่ไม่รู้หมายเลข IP address เจ้า DNS จะทำหน้าที่แปลงข้อมูลและแจ้งให้เครื่องลูกข่ายตามที่ได้ส่งคำสั่งขอข้อมูลมา และการทำงานแบบไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์นี้เองที่ทำให้เครื่องซึ่งทำหน้าที่ DNS สามารถเป็นได้ทั้งเซิร์ฟเวอร์และไคลเอนต์ของ DNS ในเครื่องเดียวกัน ดังนั้นเครื่องที่ให้บริการในเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 1 เครื่องจะมีการอ้างถึงได้หลายอย่าง เช่น

- อ้างตามชื่อ domain เช่น mail.provision.co.th

- อ้างตาม IP address เช่น 204.183.255.30

- อ้างตามหมายเลขฮาร์ดแวร์หรือ MAC address เช่น 00:a0:7c:4d:f2


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น